ปิดเทอมปลอดภัย
ปิดเทอมแล้ว กิจกรรมที่กักเก็บมาในช่วงเปิดเทอมผุดขึ้นในหัวเด็กๆ มากมาย ส่วนใหญ่คงไม่พ้นเรื่องเล่นเลยเพราะธรรมชาติของเด็กต้องเล่นถึงจะพัฒนาการเรียนรู้ได้ แต่ผู้ใหญ่อย่างเรา จะดูแลเด็กๆในช่วงปิดเทอมนี้อย่างไรให้เด็กสนุกและปลอดภัย
อย่าปล่อยให้เด็กอยู่ใกล้แหล่งน้ำหรือเล่นน้ำตามลำพัง
จมน้ำ คือ สาเหตุสำคัญในการเสียชีวิตอันดับ 1 ของเด็กไทย (เฉลี่ยราว 1,513 รายต่อปี)
เด็กจมน้ำนั้น มีเวลาช่วยเหลือเพียง 4-5 นาที ช้ากว่านั้นเด็กจะเสียชีวิตเพราะขาดอากาศหายใจ หรือเกิดภาวะสมองตายไม่อาจฟื้นกลับได้ ผู้ปกครองจึงต้องไม่ให้เด็กๆ ไปเล่นใกล้แหล่งน้ำ หากในบริเวณบ้านมีบ่อน้ำ มีตุ่ม โอ่ง ต้องปิดฝาเสมอ แล้วอย่าลืมทำรั้วกั้นสระน้ำหรือบ่อน้ำหรือผู้ปกครองจะหาพื้นที่สร้างสรรค์ให้ลูกเล่น ในที่ใกล้สายตา นอกจากจะปลอดภัยแล้ว ยังช่วยส่งเสริมพัฒนาการเรียนรู้ของเด็กด้วย
อย่าทิ้งเด็กไว้ลำพัง
เด็กเล็กอายุน้อยกว่า 7 ขวบ มักจะเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ โดยมากเกิดจากผู้ใหญ่ที่ดูแลตั้งอยู่ในความประมาทและปล่อยปละละเลย ปล่อยให้อยู่ตามลำพัง ไม่ว่าจะเล่นอยู่ในบ้าน หรือ ออกไปทำกิจกรรมนอกบ้าน หากเราประมาทเพียงนิดเดียว อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอ หรือการถูกลักพาตัว ที่มักเกิดขึ้นบ่อยๆในช่วงปิดเทอมหากต้องการปกป้องลูก และเด็กๆ เราควรอยู่ใกล้ชิดกับเด็กเสมอครอบครัวที่มีเด็กเล็ก จึงต้องดูแลใกล้ชิดชนิด “อย่าให้คลาดสายตา และอยู่ในระยะที่มือของเราคว้าถึง” หรือหาทางเลือกด้วยการ สร้างที่เล่นสร้างสรรค์กับลูกๆที่บ้าน ซึ่งเราสามารถเลือกของเล่นที่ปลอดภัยกับลูกๆ และยังสร้างความผูกพันในครอบครัวได้อีกด้วย
อย่าปล่อยเด็กไว้กับร้านเกม
ร้านเกม เป็นสิ่งต้นๆที่เด็กๆมักมุ่งไปหาเมื่อปิดเทอม เพราะสามารถใช้เวลาเล่นได้เต็มที่แต่สุขภาวะในร้านเกม มักจะไม่ปลอดภัยกับเด็กๆทั้งสถานที่อากาศไม่ถ่ายเท และแออัด เชื้อโรคที่แฝงตัวตามคีย์บอร์ด และเม้าส์เชื้อโรคที่อยู่ตามเก้าอี้ เบาะนั่ง และเนื้อหาของเกมที่ไม่เหมาะสมกับวัยของเด็กๆเมื่อเปรียบเทียบกับสถิติจำนวนเยาวชน 18 ล้านคนในปี 2556 มีเด็กไทยติดเกมแล้วมากกว่า 2.7 ล้านคนซึ่งเด็กอาจได้รับอิทธิพลจากเกม และอาจนำไปสู่เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดได้
ผู้ปกครองอย่างเราจะทำอย่างไรดี
ลองหาเวลาว่างทำกิจกรรมสร้างสรรค์กับเด็กๆ ที่มีหลากหลายในช่วงปิดเทอมหรือถ้าไม่อยากออกนอกบ้าน ก็หากิจกรรมทำในบ้าน เช่น สร้างของเล่นชิ้นใหม่จากสิ่งของรอบตัว เด็กก็จะเกิดความภูมิใจที่ผลิตของเล่นได้ แถมประหยัดค่าใช้จ่ายด้วย และหาพื้นที่สร้างสรรค์ที่ปลอดภัยให้เด็กได้เล่นกับของเล่นที่เขาทำขึ้นเอง
อย่าปล่อยเด็กไว้กับสมาร์ทโฟนตามลำพัง
การใช้สมาร์ทโฟนเป็นพี่เลี้ยงเด็ก ดูจะเป็นทางออกที่ไม่ควร สำหรับครอบครัวที่ไม่มีเวลาให้ลูกๆเพราะนอกจากการดูการ์ตูน เด็กอาจจะเข้าเว็บไซต์หรือเล่นเกมที่มีเนื้อหาไม่เหมาะสม
อาจจะอนุญาตให้เด็กๆ เล่นเกมได้ แต่ไม่ควรปล่อยให้เด็กเล่นนาน เพราะนอกจากจะทำให้เสียสายตาและการที่ใช้นิ้วมือที่หนักเกินไปมีโอกาสทำให้เกิดโรคนิ้วล็อก เหตุเพราะเกิดเส้นเอ็นอักเสบเรื้อรัง
การแชททางอินเทอร์เน็ต พ่อแม่ควรดูแลและให้คำแนะนำ ด้วยความใจเย็นไม่เอะอะโวยวาย เช่น กำชับลูกไม่ให้เขาให้ชื่อ ที่อยู่หรือเบอร์โทรศัพท์ที่แท้จริง อาจยกตัวอย่างจากข่าวภัยอินเตอร์เนตซึ่งเกิดขึ้นเสมอ ให้ลูกได้รับรู้และเข้าใจ เพื่อป้องกันการถูกหล่อลวงจากบุคคลอันตรายที่แฝงตัวมาทางอินเทอร์เน็ต ทางที่ดีครอบครัวควรหาเวลาทำกิจกรรมกับเด็กๆ ให้มากกว่าปล่อยเด็กอยู่กับพี่เลี้ยงเด็กสมาร์ทโฟน
……………มาปกป้องเด็กๆในช่วงปิดเทอมกันนะคะ…………… #ปิดเทอมปลอดภัย
ข้อมูลจาก : women.mthai.com
เรื่อง นิตยสาร Real parenting